ความแตกต่างของบัตร Travel Card

Travel Card หลายคนคงเคยได้ยิน โดยเฉพาะนักเดินทาง ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นหนึ่งในตัวช่วยของการช้อปปี้งที่ต่างประเทศให้เป็นเรื่องง่าย ๆ โดยที่เราไม่ต้องพกเงินสดเยอะ แลกเงินต่างประเทศด้วยเรทพิเศษ รูดบัตรที่ต่างประเทศกันได้สะดวก และสามารถจัดการผ่านแอปพลิเคชั่นได้ง่าย ๆ พร้อมทั้งยังมีสิทธิพิเศษต่าง ๆ อีกด้วย

Travel Card เป็นบัตรอีกรูปแบบหนึ่ง เหมือนบัตรเดบิต หรือ บัตรเติมเงิน (Prepaid Card)  ที่สามารถใช้แลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศได้ สามารถรูดจ่ายค่าสินค้า กดเงินจากตู้ ATM ต่างประเทศได้เหมือนบัตรเอทีเอ็ม และบัตรเครดิตทั่วไป โดยมีค่าธรรมเนียมหรืออัตราแลกเปลี่ยนในราคาพิเศษ เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ไม่มีบัตรเครดิต หรือคนที่ไม่อยากพกเงินสดจำนวนมาก ไม่ต้องเสียเวลาไปแลกเงินบ่อย ๆ ซึ่งจะสามารถใช้จ่ายทั่วโลกได้สะดวกขึ้นด้วยบัตรใบเดียวค่ะ

ประเภทของบัตร Travel Card จะถูกแบ่งง่าย ๆเป็น 2 ประเภทค่ะ
1. แบบ Pre-Paid
คือ ต้องเติมเงินก่อนจึงรูดใช้ได้ และสามารถแลกสกุลเงินต่างประเทศเก็บไว้ล่วงหน้าก่อนได้เลย
2. แบบเดบิต เป็นบัตรที่ไม่ต้องเติมเงิน แต่จะผูกกับบัญชีธนาคารของเรา เมื่อรูดใช้จ่ายแล้วระบบจะตัดเงินจากในบัญชีของเราที่ได้ทำการผูกไว้นั่นเอง
Travel Card

บัตร Travel Card มีประโยชน์ยังไง ??!
ถ้าพูดถึงประโยชน์หลัก ๆ ของบัตร Travel Card บอกเลยว่าคุณสมบัติเหมาะสุด ๆ ในการใช้เดินทางต่างประเทศ เรียกได้ว่าครบจบใน 1 ใบก็ว่าได้ อย่างเช่น รูดชำระค่าสินค้าและบริการในประเทศต่าง ๆ
ถอนเงินสดที่ตู้ ATM ในประเทศต่าง ๆ แลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินต่างประเทศที่ทำได้สะดวกผ่านระบบออนไลน์ และได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดี เพราะไม่เสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน อีกทั้งยังสามารถแลกเงินเก็บไว้ล่วงหน้าได้ มาพร้อมสิทธิพิเศษอื่น ๆ เช่น ประกันการเดินทาง ส่วนลดจากร้านค้าที่ร่วมรายการ และอีกหนึ่งสิทธิพิเศษคือบัตร Travel Card ประเภทเดบิตสามารถใช้ถอนเงินสดที่ตู้ ATM ในไทยได้ ส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคารด้วยนะคะ
แลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ

ความแตกต่างของบัตร Travel Card กับบัตรเครดิต ??!
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงสงสัยว่าแล้วมันแตกต่างจากบัตรเครดิตอย่างไร หลาย ๆ อย่างบัครเครดิตสามารถทำได้ค่ะ แต่ที่แตกต่างชัดเจนคือบัตร Travel Card สามารถใช้แลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินต่างประเทศได้ตลอดเวลาผ่านระบบออนไลน์ในเรตที่ดีกว่า เพราะไม่เสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของยอดใช้จ่าย เหมือนกับการรูดจ่ายด้วยบัตรเครดิต แลกเงินเก็บไว้ล่วงหน้าได้ในช่วงที่อัตราแลกเปลี่ยนดี เมื่อนำไปใช้จ่ายในวันไหน ๆ ก็จะคิดตามเรทในวันที่แลกเงินได้เลย ต่างจากบัตรเครดิตที่ไม่สามารถแลกเงินในวันที่มีเรทดีเก็บไว้ได้ ควบคุมวงเงินการใช้จ่ายได้ดีกว่าบัตรเครดิต เพราะ Travel Card จะหักเงินจากวงเงินที่มีในบัญชี หรือวงเงินที่เราแลกสกุลเงินมาเก็บไว้แล้ว ขณะที่บัตรเครดิตจะมีวงเงินเครดิตให้สูงกว่า มีโอกาสใช้จ่ายเกินลิมิตได้มากกว่า ที่สำคัญ Travel Card ของบางธนาคารมีประกันอุบัติเหตุ หรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้มาพร้อมกันด้วยนะคะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูเงื่อนไขของธนาคารที่เราสมัครประกอบด้วยอีกทางค่ะ

สำหรับใครที่สนใจสมัครบัตร Travel Card ก็มีให้เลือกหลายธนาคาร ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีเงื่อนไขและโปรโมชั่นแตกต่างกันออกไปและยังสามารถเลือกให้ตรงตามความต้องการของเราได้ด้วยค่ะ
«
»